ไม้ตัดดอกเศรษฐกิจ
ความหมายไม้ตัดดอก
ไม้ตัดดอก หมายถึง ไม้ดอกที่ปลูกเพื่อตัดเฉพาะส่วนที่เป็นดอกหรือช่อดอกนำไปใช้ประโยชน์หรือจำหน่าย ลักษณะของไม้ตัดดอกที่ดี คือ มีก้านดอกที่ยาวและแข็งแรง ดอกมีสีสันและรูปทรงที่สวยงาม และดอกบานทนอยู่ได้หลายวัน
วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555
เยอบีร่า
ความสำคัญทางเศรษฐกิจ
เยอบีร่าเป็นไม้ตัดดอกที่ได้รับความนิยมสูงมากในตลาดโลกในปัจจุบัน เพราะมีสีดอกสดใส มีหลายสี อายุการใช้งานทน และมีรูปทรงดอกสวยงาม ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกเยอบีร่าประมาณ 3,000 ไร่ ซึ่งระยะหลังมีการนำเยอบีร่าสายพันธุ์ยุโรปเข้ามาปลูกทดแทนเยอบีร่าสายพันธุ์ไทย แต่ก็ยังผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด จึงต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศประมาณปีละ 25 ล้านบาท ซึ่งปริมาณและมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นทุกปี
แหล่งผลิตที่สำคัญ
ภาคเหนือ : พิจิตร พิษณุโลก เชียงใหม่ เชียงราย
ภาคกลาง : นนทบุรี สมุทรสาคร
ภาคใต้ : นครศรีธรรมราช ภูเก็ต
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ขอนแก่น อุบลราชธานี
ลักษณะทั่วไป
เยอบีร่าเป็นไม้ดอกที่มีลักษณะต้นเป็นกอเตี้ย มีลำต้นใต้ดิน ใบมีสีเขียวเข้มปรกเป็นพุ่ม ขอบใบหยักเป็นแฉกไม่เท่ากัน และหุบเข้าหาเส้นกลางใบเล็กน้อย และมีขนบาง ๆ อยู่ตามใต้ใบและท้องใบ ส่วนดอกเยอบีร่าประกอบด้วยดอกย่อยเล็ก ๆ เป็นจำนวนมากอัดแน่นอยู่บนฐานรองดอก ดอกย่อยมี 2 ประเภทคือ ดอกย่อยชั้นนนอก (Ray floret) และดอกย่อยชั้นใน (Disk floret) โดยดอกย่อยชั้นนอกเป็นดอกตัวเมีย เรียงอยู่รอบนอก ดอกย่อยชั้นในเป็นดอกสมบูรณ์เพศมีขนาดเล็กและสั้นจำนวนมากเรียงกันแน่นอยู่บริเวณใจกลางของช่อดอก
ประเภทของเยอบีร่า แยกตามสายพันธุ์แบ่งออกได้ 3 สายพันธุ์ ดังนี้
1. สายพันธุ์ไทย
: ลักษณะดอกมีกลีบดอกซ้อนหนามากอย่างเป็นระเบียบ ดอกย่อยชั้นในจะอยู่แน่นตรงใจกลางดอก และความยาวลดหลั่นออกมาสัมพันธ์กับดอกย่อยชั้นนอก
2. สายพันธุ์อเมริกา
: เป็นเยอบีร่าประเภทที่มีกลีบดอกชั้นเดียว กลีบดอกย่อยชั้นนอกเรียวยาวและค่อนข้างบาง
3. สายพันธุ์ยุโรป
: มีลักษณะกลีบดอกหนา กลีบกว้าง ปลายกลีบมน มีกลีบซ้อน 2-3 ชั้น ก้านดอกตรงเป็นที่นิยมของตลาดปัจจุบัน
พันธุ์เยอบีร่าที่ปลูกกันอยู่ทั่วไปส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ไทย
ได้แก่
กลุ่มดอกสีเขาว
: พันธุ์ขาวครีม ขาวจักรยาว ขาวจักรสั้น
กลุ่มดอกสีแดง
: พันธุ์แดงลักแทง แดงตาเปิ่น แดงใหญ่ และหมื่นหาญ
กลุ่มดอกสีเหลือง
: พันธุ์เหลืองถ่อ เหลืองพังสี สีดา และนวลละออ
กลุ่มดอกสีส้ม
: พันธุ์สุรเสน สีอิฐ จำปา กุมารทอง และสร้อยฟ้า
กลุ่มดอกสีชมพู
: พันธุ์ลูกรัก บัวหลวง และมณฑา
นอกจากนี้ได้มีการนำสายพันธุ์ยุโรปเข้ามาปลูกกันมากขึ้น เนื่องจากได้ราคาดี ซึ่งได้แก่
กลุ่มดอกสีแดงและแดงอมส้ม : Lea, Veronia, Tennessee, Ximena และ Clepatra
กลุ่มดอกสีชมพู : Beatrix, Estelle และ Claudia
กลุ่มดอกสีชมพูม่วง : Terra Parade, Royal, Nova และ Pamela
กลุ่มสีเหลือง : Teroformosa, Horizon, Easter star และ Terra sun
กลุ่มสีขาวครีม : Celphi, Terra Mint, Bahama และ Terra Nevelis
กลุ่มสีส้ม-เหลือง : Terra Mexico และ Clementine
กลุ่มสองสี (Bicolor) : Starlight และ Terra Mix
การขยายพันธุ์
1. การเพาะเมล็ด ส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้เพื่อหาพันธุ์ใหม่ ๆ โดยใช้วัสดุเพาะเมล็ด เช่น ขุยมะพร้าวกับทราย หรือทรายกับขี้เถ้าแกลบ อัตราส่วน 1:1 ใส่ในตะกร้าพลาสติก ซึ่งรองด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์เกลี่ยหน้าให้เรียบเสมอกัน ใช้ไม้ทำร่องตามขวางของตะกร้าห่างกันประมาณ 1 นิ้ว นำเมล็ดวางเรียงในร่องกลบด้วยวัสดุเพาะ แล้วรดน้ำให้ชุ่มประมาณ 3-5 วัน เมล็ดก็งอก เมื่อต้นกล้างอกแล้วมีใบจริง 2-3 ใบ ทำการย้ายลงถุงชำโดยใช้ดินผสมที่มีทรายผสมกับขุยมะพร้าวและปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 1:1:1 เป็นวัสดุปลูก นำไปตั้งที่ร่มรำไร เมื่อต้นกล้าตั้งตัวแล้วจึงย้ายลงแปลงปลูก ซึ่งใช้เวลาในการให้ดอกประมาณ 4-4-5 เดือน
2. การแยกหน่อ เป็นวิธีที่ใช้กันมาก เพราะทำได้ง่ายและสะดวก การแยกหน่อเยอบีร่าควรทำเมื่อเยอบีร่ามีอายุประมาณ 7 เดือน ซึ่งทำได้ 2 วิธี
ก. การแยกหน่อโดยการขุดต้นเยอบีร่าขึ้นมาทั้งกอ ล้างดินออกให้หมดจึงแยกหน่อแต่ละหน่อควรมีรากติดอย่างน้อย 3 ราก ตัดราก และใบออกประมาณครึ่งหนึ่งเพื่อลดการคายน้ำ และนำหน่อที่แยกไปชำในถุงที่มีวัสดุเพาะชำ เช่น ทรายหรือขุยมะพร้าวหรืออาจลงแปลงเลย นำไปเก็บไว้ในที่ร่ม รดน้ำประมาณ 1 เดือน รากจะแตกใหม่ประมาณ 2 เดือน ก็สามารถให้ดอกได้
ข. การแยกหน่ออ่อนจากส่วนของลำต้น (เหง้า) ใช้กับต้นที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป โดยตัดใบให้หมดทั้งต้นและตัดให้เหลือแต่เหง้า ส่วนของเหง้าก็จะแตกต้นอ่อนขึ้นมา วิธีนี้ไม่ต้องขุดต้นออกจากแปลง เมื่อต้นอ่อนมีใบ 3-4 คู่ จึงแยกหน่ออ่อนมาชำต่อไป
3. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ วิธีนี้สามารถผลิตต้นพันธุ์ได้จำนวนมากในเวลาสั้นได้ต้นที่ปลอดโรคและตรงตามพันธุ์
อนาคตของไม้ตัดดอกเขตร้อนของไทย
ดอก
ไม้
ที่
นิยม
ใช้
กัน
มาก
ที่
สุด 10 อัน
ดับ
แรก
ของ
ของ
โลก
ได้
แก่ กุหลาบ เบญจมาศ คาร์เนชั่น ลิลลี่ ฟรีเซีย เยอบีร่า กล้วย
ไม้ (ซิมบีเดี
ยม) จิบโฟฟิลล่า และ อัลสโตรมีเรีย การ
ใช้
ไม้
ตัด
ดอก
ของ
โลก
เพิ่ม
สูง
ขึ้น
ทุก
ปี ใน
ปี 2533 มี
มูล
ค่า 675,000 ล้าน
บาท ซึ่ง
เพิ่ม
ขึ้น 11% จาก
ปี 2528 ญี่ปุ่น สหรัฐ
อเมริกา
และ
อิตาลี เป็น
ประเทศ
ที่
ใช้
ไม้
ตัด
ดอก
มาก
ที่
สุด คิด
เป็น 27%, 23% และ 16% ตาม
ลำ
ดับ ขณะ
ที่เนเธอร์แลนด์ โคลัมเบีย และ
อิสราเอล เป็น
ประเทศ
ผู้
ส่ง
ออก
ไม้
ตัด
ดอก สู่
ตลาด
โลก
มาก
ที่
สุด
คน
ไทย
นิยม
ใช้
ดอก
ไม้
เพื่อ
ปลูก
ตก
แต่ง
บ้าน
เรือน และ
ใช้
ใน
พิธี
กรรม
ทางศาสนา
มา
ช้า
นาน
แล้ว แต่
ดอก
ไม้
เริ่ม
มี
บท
บาท สำคัญ
ทางเศรษฐกิจ เมื่อ
ประมาณ 30 ปี
นี้
เอง ประเทศ
ไทย
เริ่ม
มี
การ
ปลูก
และ
ส่ง
ดอก
กล้วย
ไม้
ไป
จำหน่าย
ต่าง
ประเทศ และ
ใน
ระยะ 10 ปี ที่
ผ่าน
มา
ความ
ต้อง
การ
ใช้
ดอก
ไม้
ภาย
ใน
ประเทศ
มี
เพิ่ม
สูง
ขึ้น จึง
มี
การ
ปลูก
เพื่อ
การ
ค้า
เพิ่ม
มาก
ขึ้น ปัจจุบัน
ประเทศ
ไทย
มี
พื้น
ที่
ปลูก
ไม้
ตัด
ดอก
รวม
กัน
ประมาณ 40,000 ไร่ เพิ่ม
ขึ้น 20% จาก
ปี 2529 ไม้
ดอก
ที่
นิยม
ปลูก กัน
มาก
ที่
สุด
ได้
แก่ กล้วย
ไม้ มะลิ และ
กุหลาบ ซึ่ง
มี
พื้น
ที่
ปลูก คิด
เป็น 36%, 15.2%, และ 9.2% ตาม
ลำ
ดับ ใน
ระยะ 2-3 ปี
ที่
ผ่าน
มา ไม้
ดอก
เมือง
ร้อน
หลาย
ชนิด เช่น ดา
หลา ปทุม
มา ขิง
แดง ธรรม
รักษา ที่
ไม่
เคย
มี
การ
ปลูก
เป็น
การ
ค้า
อย่าง จริง
จัง
มาก
ก่อน
มี
การ
ปลูก
มาก
ถึง 303 ไร่ ใน
ปี 2537 และ
ยัง
มี
แนวโน้มขยาย
ตัว
อย่าง
ต่อ
เนื่อง
ดอก
ไม้
ตัด
ดอก
เขต
ร้อน
ที่
สำคัญ
ที่
ปลูก
เพื่อ
การ
ค้า
อยู่
ใน
ประเทศ
ขณะ
นี้ เช่น กล้วย
ไม้ บัว
ตัด
ดอก ซ่อน
กลิ่น
ไทย ปทุม
มา ธรรม
รักษา ดา
หลา หน้า
วัว และ
อีก
หลาย
ชนิด
ที่
มี
แนวโน้มว่า
จะ
มี
การ
ปลูก
เพื่อ
การ
ค้า
เพิ่ม
ขึ้น
อีก
หลาย
ชนิด
ได้
แก่ ขิง
แดง เอื้งหมาย
นา กล้วย
ตัด
ดอก สับ
ปะ
รด
ตัด
ดอก คล้า
ตัด
ดอก ขิง
อินโดนีเซีย บาน
ไม่
รู้
โรย สร้อย
ทอง ล้วน
เป็น
ไม้
ตัด
ดอก
ที่
น่า
สน
ใจ
เพราะ
ปลูก
เลี้ยง
ดู
แล
รักษา
ง่าย เจริญ
เติบ
โต
ได้
ดี
ใน
ประเทศ
ไทย การ
ลง
ทุน
ไม่
สูง
นัก แต่
พืช
เหล่า
นี้
ยัง
ไม่
ได้
รับ
ความ
สน
ใจ
มาก
นัก
เพราะ
อาจ
จะ
เป็น
พืช
ที่
อยู่
ใกล้
ตัว
เกิน
ไป มอง
เห็น
เป็น
ความ
เคย
ชิน และ
เคย
อยู่
อย่าง
ไร้
ค่า
มา
ก่อน
หรือ
บาง
ชนิด
ก็
ใหม่
เสีย
จน
ไม่
เป็น
ที่
รู้
จัก พืช
เหล่า
นี้
เลย
ไม่
ได้
รับ
การ
พัฒนา
อย่าง
จริง
จัง ดัง
นั้น
เทคโนโลยี
การ
ผลิต
ไม้
ดอก
เมือง
ร้อน
ที่
จะ
นำ
ไป
เป็น
ข้อ
มูล
ส่ง
เสริม
ให้
เกษตร
กร
ปลูก
เป็น
การ
ค้า
จึง
เป็น
ข้อ
จำกัด
ที่
สำคัญ
ที่
สุด การ
เริ่ม
ต้น
ที่
จะ
กำหนด
อนาคต
พืช
เหล่า
นี้ จึง
น่า
จะ
อยู่
ที่
ทางนัก
วิชา
การ
ควร
หัน
มา
ให้
ความ
สำคัญกับการ
ศึกษา
เรื่อง
ดอก
ไม้
เมือง
ร้อน
ให้
มาก
ขึ้น
ไป
พร้อม ๆ กับการ
ส่ง
เสริม
ให้
ประชา
ชน
รัก และ
บริโภค
ไม้
ดอก
เมือง
ร้อน
ให้
กว้าง
ขวาง
มาก
ขึ้น ซึ่ง
อาจ
จะ
มี
ผล
ให้
ลด
การ
นำ
เข้า
ดอก
ไม้
เมือง
หนาว และ
สามารถ
ส่ง
ออก
ไม้
ดอก
เมือง
ร้อน
เพิ่ม
มาก
ขึ้น
ด้วย
บทความที่ใหม่กว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)