ความหมายไม้ตัดดอก

ไม้ตัดดอก หมายถึง ไม้ดอกที่ปลูกเพื่อตัดเฉพาะส่วนที่เป็นดอกหรือช่อดอกนำไปใช้ประโยชน์หรือจำหน่าย ลักษณะของไม้ตัดดอกที่ดี คือ มีก้านดอกที่ยาวและแข็งแรง ดอกมีสีสันและรูปทรงที่สวยงาม และดอกบานทนอยู่ได้หลายวัน

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

อนาคตของไม้ตัดดอกเขตร้อนของไทย






                ดอกไม้ที่นิยมใช้กันมากที่สุด 10 อันดับแรกของของโลกได้แก่ กุหลาบ เบญจมาศ คาร์เนชั่น ลิลลี่ ฟรีเซีย เยอบีร่า กล้วยไม้ (ซิมบีเดียม) จิบโฟฟิลล่า และ อัลสโตรมีเรีย การใช้ไม้ตัดดอกของโลกเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ในปี 2533 มีมูลค่า 675,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 11% จากปี 2528 ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและอิตาลี เป็นประเทศที่ใช้ไม้ตัดดอกมากที่สุด คิดเป็น 27%, 23% และ 16% ตามลำดับ ขณะที่เนเธอร์แลนด์ โคลัมเบีย และอิสราเอล เป็นประเทศผู้ส่งออกไม้ตัดดอก สู่ตลาดโลกมากที่สุด
                คนไทยนิยมใช้ดอกไม้เพื่อปลูกตกแต่งบ้านเรือน และใช้ในพิธีกรรมทางศาสนามาช้านานแล้ว แต่ดอกไม้เริ่มมีบทบาท สำคัญทางเศรษฐกิจ เมื่อประมาณ 30 ปีนี้เอง ประเทศไทยเริ่มมีการปลูกและส่งดอกกล้วยไม้ไปจำหน่ายต่างประเทศ และในระยะ 10 ปี ที่ผ่านมาความต้องการใช้ดอกไม้ภายในประเทศมีเพิ่มสูงขึ้น จึงมีการปลูกเพื่อการค้าเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกไม้ตัดดอกรวมกันประมาณ 40,000 ไร่ เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2529 ไม้ดอกที่นิยมปลูก กันมากที่สุดได้แก่ กล้วยไม้ มะลิ และกุหลาบ ซึ่งมีพื้นที่ปลูก คิดเป็น 36%, 15.2%, และ 9.2% ตามลำดับ ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม้ดอกเมืองร้อนหลายชนิด เช่น ดาหลา ปทุมมา ขิงแดง ธรรมรักษา ที่ไม่เคยมีการปลูกเป็นการค้าอย่าง จริงจังมากก่อนมีการปลูกมากถึง 303 ไร่ ในปี 2537 และยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

               ดอกไม้ตัดดอกเขตร้อนที่สำคัญที่ปลูกเพื่อการค้าอยู่ในประเทศขณะนี้ เช่น กล้วยไม้ บัวตัดดอก ซ่อนกลิ่นไทย ปทุมมา ธรรมรักษา ดาหลา หน้าวัว และอีกหลายชนิดที่มีแนวโน้มว่าจะมีการปลูกเพื่อการค้าเพิ่มขึ้นอีกหลายชนิดได้แก่ ขิงแดง เอื้งหมายนา กล้วยตัดดอก สับปะรดตัดดอก คล้าตัดดอก ขิงอินโดนีเซีย บานไม่รู้โรย สร้อยทอง ล้วนเป็นไม้ตัดดอกที่น่าสนใจเพราะปลูกเลี้ยงดูแลรักษาง่าย เจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทย การลงทุนไม่สูงนัก แต่พืชเหล่านี้ยังไม่ได้รับความสนใจมากนักเพราะอาจจะเป็นพืชที่อยู่ใกล้ตัวเกินไป มองเห็นเป็นความเคยชิน และเคยอยู่อย่างไร้ค่ามาก่อนหรือบางชนิดก็ใหม่เสียจนไม่เป็นที่รู้จัก พืชเหล่านี้เลยไม่ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง ดังนั้นเทคโนโลยีการผลิตไม้ดอกเมืองร้อนที่จะนำไปเป็นข้อมูลส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเป็นการค้าจึงเป็นข้อจำกัดที่สำคัญที่สุด การเริ่มต้นที่จะกำหนดอนาคตพืชเหล่านี้ จึงน่าจะอยู่ที่ทางนักวิชาการควรหันมาให้ความสำคัญกับการศึกษาเรื่องดอกไม้เมืองร้อนให้มากขึ้นไปพร้อม ๆ กับการส่งเสริมให้ประชาชนรัก และบริโภคไม้ดอกเมืองร้อนให้กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งอาจจะมีผลให้ลดการนำเข้าดอกไม้เมืองหนาว และสามารถส่งออกไม้ดอกเมืองร้อนเพิ่มมากขึ้นด้วย

4 ความคิดเห็น: